การแถลงข่าวการจับกุมเรือประมงเวียดนามของผู้บังคับบัญชา
ในวันอังคารที่ ๑๔ ม.ค.๖๘ เวลา ๑๕๐๐
จากการสอบสวนขยายผลในการจับกุม รปม.วน. จำนวน ๑ ลำ เมื่อวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๖๘ ที่ผ่านมา รวมทั้งการได้รับเบาะแสจากแหล่งข่าวในพื้นที่พบว่า จะมีเรือประมงต่างชาติ เข้ามาทำการประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำไทย บริเวณพื้นที่ทางทะเลจังหวัดปัตตานี
พลเรือโท นเรศ วงศ์ตระกูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๒/ผู้อำนวยการ
ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค ๒ ได้สั่งการให้จัดกำลังทางเรือ
ทำการลาดตระเวน ค้นหา และพิสูจน์ทราบอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในวันที่ ๑๓ ม.ค.๖๘ เครื่องบินลาดตระเวนแบบที่ ๑ ได้ลาดตระเวนค้นหา และตรวจพบเรือประมงต้องสงสัย บริเวณ ละติจูด ๗ องศา ๑๐.๓ ลิปดาเหนือ ลองจิจูด ๑๐๑ องศา ๒๐.๓๔ ลิปดาตะวันออก (ทิศตะวันออกของชายฝั่งจังหวัดสงขลา ระยะ ๘๑ กิโลเมตร) จึงแจ้งให้
เรือหลวงปัตตานีเข้าทำการตรวจสอบ พบว่าเป็นเรือประมงสัญชาติเวียดนาม เป็นเรือคราดปลิง จำนวน ๑ ลำ ผู้ควบคุมพร้อมลูกเรือรวม ๕ คน มีพฤติกรรมกำลังลักลอบ
ทำการประมง จึงได้เข้าทำการจับกุม และควบคุมเรือของกลางพร้อมลูกเรือทั้งหมด
มายังท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ ๒ เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม และส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
การดำเนินคดีกับเรือประมงต่างชาติ ในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นการจับกุม
ในน่านน้ำภายในของประเทศไทย จึงได้ตั้งข้อกล่าวหากระทำความผิดตามกฎหมาย จำนวน ๓ ฉบับ ได้แก่
๑. พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.๒๕๕๘ และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ใช้เรือประมงไร้สัญชาติ
ทำการประมงในเขตการประมงไทย และร่วมกันทำการประมงพาณิชย์โดยไม่มีใบ
รับอนุญาตทำการประมง
๒. พ.ร.บ.ว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทย พ.ศ.๒๔๘๒ ทำการประมงในเขตการประมงไทยโดยทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่ได้รับอนุญาต
๓.พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.๒๕๒๒ เป็นคนต่างด้าวไม่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ตามช่องทางด่านตรวจค้นเข้าเมือง
การจับกุมเรือประมงต่างชาติในพื้นที่ทัพเรือภาคที่ ๒ ในปีงบประมาณ ๒๕๖๗
เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน สามารถทำการจับกุมได้ จำนวน ๑๐ ครั้ง ได้เรือประมงต่างชาติ ของกลางทั้งหมด ๑๕ ลำ ผู้ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือรวม จำนวน ๗๕ คน สำหรับการจับกุมครั้งนี้เป็นครั้งที่สองในรอบ ๑๐ วัน ของปีงบประมาณ ๒๕๖๘
ซึ่งทัพเรือภาคที่ ๒ และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติในทะเลภาค ๒
ได้มุ่งมั่นในการดำเนินการเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติในทะเลของประเทศไทย
ทั้งนี้การปฏิบัติดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ
ปี ๒๕๖๘ ที่มุ่งเน้นการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล การป้องกัน แก้ไขปัญหาภัยคุกคามทางทะเล และการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะการรุกล้ำน่านน้ำไทย
ของเรือประมงต่างชาติ ที่เข้ามาทำการประมงโดยผิดกฎหมาย จนประสบความสำเร็จ
ในการจับกุมในครั้งนี้
ท้ายนี้ ทัพเรือภาคที่ ๒ ขอขอบคุณพี่น้องชาวประมง ในความร่วมมือที่ได้แจ้งเบาะแสของเรือที่กระทำความผิด และขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนและชาวประมงไทยว่า “ทัพเรือภาคที่ ๒ และ ศรชล.ภาค ๒ จะปฏิบัติการเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างสุดกำลังความสามารถ ในพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ ๑๑๓,๒๗๕ ตารางกิโลเมตร และจะไม่ยอมให้เรือประมงต่างชาติลักลอบเข้ามาทำการประมงในพื้นที่ทางทะเลของประเทศไทยเป็นอันขาด หากตรวจพบจะจับกุมและส่งดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดในทุกกรณี” ทั้งนี้เพื่อให้ทรัพยากรของประเทศไทย คงอยู่กับลูกหลานของคนไทยตลอดไป
#ศูนย์ข่าวพญาเหยี่ยว